ข้อมูลและการวิ๶คราะห์ข้อมูลกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่เรา๶รียนภาษาอังกฤษอย่างไร

article

Untitled Document

ในขณะที่การเรียนภาษาอังกฤษกำลังเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นในเอเชีย นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีการเรียนรู้ก็กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่นักการศึกษาในภูมิภาคดังกล่าวใช้เพื่อรับมือความท้าทายในการเสริมความชำนาญอันจำเป็นต่อผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาทั้งในบริบทของสถานศึกษาและวิชาชีพ


บทบาทที่เพิ่มขึ้นของการใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมการศึกษา ซึ่งทำให้ผู้สอนสามารถรวบรวมและวิเคราะห์ผลการเรียนของผู้เรียนได้ในแทบจะทันที และสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อปรับรูปแบบการเรียนรู้ให้เหมาะสม ทั้งหมดล้วนส่งผลต่อวิธีที่ผู้สอนและผู้เรียนใช้ในการสอนภาษาอังกฤษ (ELT) และกลุ่มผู้เรียนภาษาที่มีความแข็งขันซึ่งอยู่ในบางพื้นที่ของภูมิภาคกำลังได้รับประโยชน์จากเรื่องดังกล่าว


ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างเวียดนามและไทยกำลัง “เกิดความต้องการและความกระหายด้านการเรียนภาษา” ด้วยตระหนักว่าความเข้าใจและความสามารถในการสนทนาภาษาเพิ่มเติมโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อความก้าวหน้าทางอาชีพ อ้างอิงตามคำกล่าวของคุณสจ๊วต คอนเนอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายคุณวุฒิและการประเมินของappAsia


รัฐบาลของทั้งสองประเทศตระหนักถึงความต้องการดังกล่าว และกำลังเปลี่ยนแปลงหลักสูตรภาษาอังกฤษและอาชีวศึกษา เพื่อมอบความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่ประชาชนเพื่อเป้าหมายแห่งความเจริญก้าวหน้าในเศรษฐกิจโลก ประเทศดังกล่าว “เล็งเห็นถึงความสำคัญของภาษาอังกฤษที่มีต่อความสำเร็จในอนาคต ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโต และดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศให้เพิ่มสูงขึ้น” คุณสจ๊วต กล่าว


อย่างไรก็ดีการเตรียมตัวผู้เรียนภาษาอังกฤษเพื่ออนาคตที่สดใส จำเป็นต้องอาศัยความเหมาะสมทั้งในด้านสื่อการเรียนการสอน สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ และการประเมินคุณวุฒิ อันประกอบด้วยการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานระดับสูงเพื่อความสำเร็จ อาทิ การใช้สื่อการเรียนการสอนตามมาตรฐานสากลของ ESL (ภาษาอังกฤษในฐานะภาษาที่สอง) และการมุ่งเป้าไปที่ระดับ B1 หรือระดับกลาง ตามกรอบมาตรฐานความสามารถทางภาษาของยุโรป (CEFR) อันเป็นความเห็นของคุณสจ๊วต


๶จาะลึก๶รื่องྺ้อมูล


อย่างไรก็ดีเป้าหมายอันแรงกล้าที่น่ายกย่องดังกล่าวมาพร้อมคำถามอีกหลายข้อ:

  • ผู้เรียนควรเริ่มเรียนภาษาตั้งแต่ระดับใด
  • มีเวลาเพียงพอที่จะผลักดันให้ผู้เรียนก้าวสู่ระดับทางภาษาที่ต้องการเมื่อจบการศึกษาหรือไม่
  • ผู้สอนมีคุณวุฒิหรือความสามารถที่เหมาะสมในการถ่ายทอดทักษะต่างๆที่จำเป็นต้องสอนหรือไม่
  • ผู้สอนมีสื่อการเรียนการสอนที่จำเป็นซึ่งช่วยส่งเสริมพัฒนาการหรือไม่


ดังนั้นการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลด้านการเรียนรู้และความชำนาญทางภาษาจึงมีบทบาทสำคัญในฐานะเครื่องมือของนักการศึกษา ผู้เรียนแต่ละคนมีความประสงค์ในแบบของตน ดังนั้นเส้นทางการเรียนรู้รายบุคคลจึงเป็นเรื่องสำคัญ ตามความเห็นของคุณคาโย ทางุชิผู้จัดการฝ่ายดูแลELTของapp Asiaดังนั้นการตระหนักถึงระดับความสามารถที่แท้จริงของผู้เรียน และการมีเป้าหมายที่ชัดเจนด้านพัฒนาการในแต่ละช่วงเวลา จึงมีความสำคัญในการจัดการด้านพัฒนาการทางภาษา


“แต่ละคนเรียนรู้ได้ไม่เท่ากัน ดังนั้นในชั้นเรียนเดียวกัน จึงมีทั้งผู้ที่เรียนช้าและเรียนเร็ว” คุณคาโย กล่าว “แต่ละคนมีจุดเด่นและจุดด้อยต่างกันไป และจำเป็นต้องรับได้ความใส่ใจ”


เราจะทราบได้ก็ด้วยการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เล็งเห็นถึงจุดเด่นและจุดด้อยโดยละเอียด เมื่อนำข้อมูลดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้ ก็จะช่วยสร้างวงรอบข้อคิดเห็นที่ช่วยให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ด้านการเรียนรู้อันเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัว และมีประสิทธิภาพ ดังที่คุณสจ๊วตระบุว่า “วงรอบข้อคิดเห็นของการสอน การเรียน การประเมิน ล้วนต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง”


คุณคาโยยังกล่าวด้วยว่า ข้อมูลเชิงลึกลักษณะดังกล่าวเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นและมีแรงบันดาลใจในการศึกษาเรียนรู้ต่อไป “ความสามารถในการบ่งชี้จุดเด่นและจุดด้อยของผู้เรียนแต่ละคนจะช่วยนักการศึกษาในการสร้างแรงจูงใจแก่ผู้เรียน” คุณคาโย กล่าว อีกทั้งยังเสริมด้วยว่า สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่มีเทคโนโลยีเป็นตัวช่วยถือเป็นสิ่งล้ำค่าต่อกระบวนการที่ว่า


อนาคตของการเรียนภาษา


เทคโนโลยีช่วยเหลือนักการศึกษาให้สามารถสอนได้ดีขึ้นอย่างไร “appใช้เครื่องมือหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ เพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลในกระบวนการเรียนรู้ เพื่อถอดรหัสรูปแบบและสร้างภาพร่างของชั้นเรียนและผู้เรียนแต่ละคนได้อย่างรวดเร็วและในปริมาณมาก” คุณสจ๊วต กล่าว


ความสามารถด้านการวิเคราะห์ที่ขับเคลื่อนโดยข้อมูลของappช่วยในการบันทึกรายละเอียดที่ครอบคลุม และนำเสนอข้อมูลได้อย่างรวดเร็วในรูปแบบที่ผู้สอนเข้าใจได้ง่าย ทำให้สามารถนำองค์ความรู้ดังกล่าวไปใช้ในการตัดสินใจให้ดียิ่งขึ้น ทั้งในด้านวิธีการสอน และแนวทางการใส่ใจและดูแลผู้เรียนแต่ละคน


ตัวอย่างเช่นappใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning)เพื่อวัดผลทดสอบอย่างรวดเร็วและแม่นยำ รวมถึงสามารถจำแนกผลการเรียนของนักเรียนแต่ละคนตามทักษะ ซึ่งจำแนกได้แม้กระทั่งทักษะการพูด และหากผู้เรียนมีจุดอ่อนในบางเรื่อง เช่น ในการพูดบางระดับภายใต้บางบริบท ระบบก็สามารถให้ข้อคิดเห็นและคำแนะนำว่าควรเน้นย้ำหัวข้อใดในสื่อการเรียนการสอนของหลักสูตรเพื่อเสริมทักษะดังกล่าว ซึ่งทั้งหมดถูกจัดการโดยอัตโนมัติผ่านเทคโนโลยี โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ใดเข้าไปจัดการ


นักการศึกษายังสามารถถ่ายทอดการสอน รวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์ผลการเรียนได้จากระยะไกล ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่กำลังมีความสำคัญอย่างมาก “เราต้องเปลี่ยนกระบวนวิธีการสอนโดยสิ้นเชิง สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา จนทำให้เราต้องก้าวสู่การเรียนการสอนออนไลน์จากระยะไกลให้เร็วที่สุด” คุณสจ๊วต กล่าว


appได้ปรับตัวสู่วิถีใหม่แห่งโลกดิจิทัลที่เข้มข้นขึ้น โดยผสานการประเมินผลไว้ในสื่อการเรียนการสอนของหลักสูตร ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ผ่านระบบการเรียนการสอนของบริษัทในรูปแบบดิจิทัล


ดังนั้นไม่ว่าโลกของเราจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในยุคของ “ชีวิตวิถีใหม่” เทคโนโลยีและข้อมูลก็ยังคงส่งผลต่อการเรียนการสอนโดยจริงแท้และไม่เปลี่ยนแปลง